ฉีดไขมันตัวเอง เติมเต็มจุดบกพร่อง ให้กลับมาเป๊ะ ปัง และปลอดภัย
การฉีดไขมันตัวเองเพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาด เช่น การฉีดไขมันทั่วใบหน้า เรือนร่าง ไม่ว่าจะเป็นการฉีดไขมันนม ฉีดไขมันสะโพก หรือฉีดไขมันก้น เป็นต้น การฉีดเพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดนั้นสามารถใช้ไขมันของร่างกายตัวเอง โดยแพทย์จะดูดไขมันจากจุดใดจุดหนึ่งที่มีไขมันในจำนวนที่เหมาะสม แล้วนำมาฉีดเข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการแก้ไข เราสามารถใช้ไขมันของเราฉีดเพื่อเติมเต็มโดยการหลีกเลี่ยงสารสังเคราะห์ทำให้การฉีดไขมันมีผลข้างเคียงน้อยมาก
สำหรับไขมันที่นำมาใช้ฉีดก็ไม่ใช่ของใครอื่น แต่เป็นของตัวผู้มารับการรักษาเอง โดยดูดได้จากหลายตำแหน่งในร่างกาย การใช้ไขมันที่เป็นเนื้อเยื่อของตัวเองมีข้อดีคือ มีความปลอดภัยมาก ไม่ต้องกังวลเรื่องของอาการแพ้ ที่สำคัญไขมันเป็นเนื้อเยื่อที่มีชีวิต ช่วยฟื้นฟูสภาพความมีชีวิตชีวาของผิวให้เป็นธรรมชาติได้ดี และจะไม่ไหลไปตามบริเวณข้างเคียงจนทำให้ผิวหนังแข็งเป็นก้อนๆ ด้วย
ปัจจุบันการฉีดไขมันตัวเองได้มีการพัฒนาเทคนิค เพื่อให้ผลการรักษาดีขึ้นกว่าเดิม แพทย์จะดูดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย โดยใช้หัวดูดที่มีรูขนาดเล็ก และใช้กระบอกดูดหรือไซริงค์ขนาดเล็ก ค่อยๆ ดูด เพื่อป้องกันไม่ให้เซลล์ไขมันเสียหาย ไขมันที่ได้จึงมีชีวิต มีคุณภาพสูง หลังทำตำแหน่งที่เจาะดูดไขมันจะเป็นเพียงแผลขนาดเล็กเท่าหัวเข็มที่ใช้ดูด ไม่ต้องเย็บแผล ใช้เพียงพลาสเตอร์ปิดเอาไว้เท่านั้น
เมื่อได้ไขมันมาแล้วก็จะมาทำการปั่นแยก โดยใช้เทคนิคให้ได้ไขมันที่มีคุณภาพสูง และไขมันที่จะนำมาใช้ฉีดมีขนาดเล็กลง จากนั้นแพทย์จะฉีดไขมันเข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการโดยใช้เข็มขนาดเล็ก
การฉีดไขมันตัวเองด้วยเทคนิคนี้ เนื่องจากไขมันที่ฉีดมีขนาดเล็กบวกกับแพทย์จะฉีดในชั้นผิวหนังที่เหมาะสม ทำให้การจัดเรียงตัวของไขมันเป็นระเบียบ ผิวหนังจึงเรียบเนียนไม่เป็นก้อนหรือเป็นคลื่นของผิวหนัง นอกจากนั้นการที่เซลล์ไขมันมีชีวิตและมีคุณภาพสูงทำให้โอกาสติดหรือรอดชีวิตของเซลล์ไขมันมีสูง แพทย์จึงไม่จำเป็นต้องฉีดไขมันเผื่อจำนวนมากเหมือนเมื่อก่อน ที่เทคนิคการเก็บไขมันหรือการปั่นแยกยังไม่ดีเหมือนสมัยนี้ การฉีดด้วยเทคนิคใหม่ก็จะดูอวบอิ่มขึ้นใกล้เคียงกับที่ต้องการ และการต้องมาฉีดเติมซ้ำก็ลดลงด้วย
การฉีดไขมันตัวเองด้วยเทคนิคที่พัฒนาขึ้นนี้จึงช่วยลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ ลดการบวมช้ำ และเวลาพักฟื้นให้น้อยลง ถ้าเป็นการฉีดไขมันแบบเดิม หลังฉีดจะค่อยๆ คงที่และอยู่ตัว ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ขณะที่เทคนิคล่าสุดในปัจจุบันจะมีอาการบวมอยู่ประมาณ 1 – 2 วัน และค่อยๆ คงที่และอยู่ตัว ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน
การเตรียมตัวก่อนฉีดเติมเต็มไขมัน
1
แจ้งให้แพทย์ทราบข้อมูลโรคประจำตัว ยาโรคประจำตัว, ประวัติการผ่าตัด, ประวัติการแพ้ยา, ประวัติการแพ้อาหาร (หากมีประวัติการรักษาจากโรงพยาบาล ควรนำมาในวันปรึกษาด้วย) หรือแจ้งก่อนวันจองคิวผ่าตัด
2
ผู้ป่วยที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือด และยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด หรือยาโรคประจำตัวอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการผ่าตัดหรือแจ้งก่อนวันจองคิวผ่าตัด
3
งดทานวิตามินอาหารเสริมต่าง ๆ ทุกชนิด เช่น วิตามินอี, น้ำมันปลา, ใบแปะก๊วย เมล็ดองุ่น โสม ฯลฯ ต้องหยุดยาอย่างน้อย 1 เดือน
4
งดใส่เครื่องประดับทุกชนิด เช่น ต่างหู สร้อย แหวน จิลต่าง ๆ บนร่างกายในวันผ่าตัด (หากถอดออกไม่ได้ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ)
5
ก่อนการผ่าตัด คนไข้ต้องทำความสะอาดเล็บมือเล็บเท้าให้สะอาด งดการทาเล็บมือ, เล็บเท้า และงดการต่อเล็บทุกชนิด
6
งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-2 วันก่อนผ่าตัด และต่อเนื่องอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
7
งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนและหลังผ่าตัด เนื่องจากสารที่อยู่ในบุหรี่มีผลลดปริมาณออกซิเจนในเลือดและทำลายเซลล์ที่จะซ่อมแซมการหายของแผล มีผลทำให้เลือดที่จะมาหล่อเลี้ยงบริเวณที่ผ่าตัดลดลง โดยมีโอกาสให้ผิวหนังที่ผ่าตัดขาดออกซิเจน ทำให้แผลหายช้ากว่าปกติ และเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
8
เตรียมภาวะจิตใจให้พร้อม ไม่ควรตื่นเต้นมากเกินไป และควรทราบว่าหลังผ่าตัดย่อมเกิดการบวมช้ำบริเวณแผล และการเปลี่ยนแปลงของใบหน้า หรือบริเวณร่างกายที่ทำการผ่าตัด ซึ่งต้องใช้เวลาในการหายของแผลหรือความเคยชินกับภาพลักษณ์ใหม่
ขั้นตอนการฉีดเติมเต็มไขมัน
1. ทำการดูดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย
2. แยกไขมันให้ได้ไขมันที่มีคุณภาพสูง และไขมันที่มีชีวิต
3. ทำความสะอาดจุดที่ที่ต้องการฉีด ฆ่าเชื้อที่และฉีดยาชา
4. นำไขมันคุณภาพที่คัดมาแล้วกลับมาฉีด เข้าไปที่ใบหน้าบริเวณที่มีข้อบกพร่อง
การฉีดเติมเต็มไขมัน ฉีดตรงไหนได้บ้าง
ฉีดทั่วใบหน้า
หน้าผาก หว่างคิ้ว ขมับ ใต้ตา ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ริมฝีปาก แก้ม
ฉีดทั่วเรือนร่าง
ฉีดไขมันนม ฉีดไขมันสะโพก ฉีดไขมันก้น
วิธีการฉีดเติมเต็มไขมัน
การฉีดจะต้องทำสองขั้นตอนคือ การเตรียมไขมันที่จะฉีดทำได้โดยการดูดไขมันส่วนเกิน อาจจะที่หน้าท้อง แขน หรือสะโพก แล้วนำไขมันนั้นไปปั่นให้ตกตระกอน เก็บเฉพาะไขมัน
ขั้นตอนที่สองนัดผู้ป่วยมาฉีด แล้วจึงนำไปฉีดส่วนที่ต้องการ เช่น ฉีดไขมันทั่วใบหน้า ฉีดไขมันนม ฉีดไขมันสะโพก และฉีดไขมันก้น อาจจะต้องใช้ปริมาณที่แตกต่างกัน แล้วแต่จุดที่ต้องการจะฉีด ระยะเวลาในการฉีดประมาณ 15-60 นาที จะมีอาการบวมและแดงบริเวณที่ฉีด 48 ชั่วโมง แต่บางคนอาจจะใช้เวลาหลายวันกว่าจะยุบบวม
ทำไมต้องทำที่ Alyss by Vertex Clinic
การฉีดไขมันที่ไหนดี ฉีดไขมันราคาเท่าไหร่
เรามักจะพบคำถามเกี่ยวกับการฉีดไขมันที่ไหนดี ฉีดไขมันราคาเท่าไหร่ แต่ลืมคิดไป ไม่ว่าจะเป็นฉีดไขมันที่ไหนดีหรือฉีดไขมันราคาเท่าไหร่นั้น อาจจะสำคัญน้อยกว่าประสบการณ์ทางการรักษา เพราะ Alyss by Vertex มีอุปกรณ์ เทคโนโลยี เครื่องมือแพทย์ รวมไปถึงห้องผ่าตัดที่ทันสมัย ได้รับมาตรฐานรพ. และต่อยอดความสำเร็จของคุณหมอผู้พลิกชีวิตคนไข้ แพทย์ผู้เปลี่ยนหน้าใหม่ให้กับผู้โชคดีจากรายการ Let Me In Thailand “หมอตี๊” ทพ.ดร.อมรพงษ์ วชิรมน แห่ง Vertex Clinic ผู้เชี่ยวชาญทางศัลยกรรมใบหน้า ขากรรไกร และทันตกรรมจัดฟัน ผู้คิดค้นและพัฒนาเทคนิคการผ่าตัดโครงหน้าและขากรรไกรแห่งแรก และแห่งเดียวในประเทศไทย “Nemotec V” สู่คลินิคศัลยกรรมเรือนร่างและความงามเต็มรูปแบบ “Alyss by Vertex clinic” พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมตกแต่ง ที่จะดูแลคุณในทุกปัญหาไม่ว่าจะเป็น รูปร่าง ผิวพรรณ เราพร้อมที่จะเนรมิตรความสวยให้กับคุณ
ข้อดีของการฉีดไขมันตัวเอง
การฉีดเติมไขมันถือว่าเป็นการศัลยกรรมที่คุ้มมากๆ เพราะเป็นการดูดไขมันจากอีกจุด เพื่อนำไปฉีดอีกจุด ถือได้ว่า ทำ 1 ได้ถึง 2 เลยทีเดียว
- ใช้ไขมันจากตัวเองจึงไม่เกิดอาการแพ้ และไม่ต้องทดสอบผิวหนังก่อนฉีด
- ทำไม่ลำบากสามารถทำที่ผู้ป่วยนอก และกลับบ้านได้
- ผลการรักษาอยู่ได้นานหลายเดือน
- หากแพ้ collagen ก็ใช้ไขมันแทนได้
- เจ็บไม่มาก
ข้อเสียของการฉีดเติมไขมัน
คือไขมันจะถูกดูดซึมได้ค่อนข้างเร็วโดยประมาณใช้เวลา 6 เดือน และอาจจะต้องฉีดซ้ำอีกครั้ง และสำหรับคนที่มีน้ำหนักน้อยหรือผอมจนเกินไปจะไม่สามารถทำได้ นอกจากนั้นไขมันที่ฉีดเข้าไปแล้วอาจเกิดการสลายตัวในปริมาณมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ จึงทำให้บางคนต้องมาฉีดเพิ่มอีก 2–3 ครั้ง และหากฉีดเข้าเส้นเลือดก็อาจจะเป็นอันตรายได้ เพราะไขมันไม่มีเอนไซม์ที่จะใช้ย่อยสลายได้ในทันที และในบางรายที่มีกรณีกระดูกยุบตัวร่วมด้วย ไขมันจะไม่ได้ช่วยพยุงกระดูกไว้ ถ้าเติมไขมันอย่างเดียวเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก เนื้อบริเวณนั้นก็จะเริ่มหย่อนลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งแก้ไขได้โดยการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปแทน แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าได้เช่นกันแล้วแต่เคส
การดูแลหลังผ่าตัด
- หลังฉีดไขมัน ผิวหนังอาจบวม ปวด มีจ้ำเลือด ช้ำ เขียว อาการเหล่านี้สามารถหายไปได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วย)
- หลังการฉีดประมาณ 3-4 ชม. อาจมีอาการตึงๆ ได้ในบริเวณที่ทำการฉีด อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นหลังจาก 4 ชั่วโมงไปแล้ว
- หลังฉีดอาจพบว่ามีรอยเข็มแดงๆ เป็นจุดเล็ก ๆ ในบริเวณที่ทำการฉีดได้ แต่จะหายไปเองภายใน 2-3 วัน
- หลังฉีดอาจพบการเปลี่ยนแปลง อาจทำให้รู้สึกว่าดูบวมเต่งตึงมาก เกิดจากตัวเราเองที่ยังไม่ชินกับการเปลี่ยนแปลงของเราเองและเกิดจากอาการบวมหลังทำทันที เป็นแค่ช่วงแรกเท่านั้น จะเริ่มเข้าที่หลังจากทำไปแล้ว 2-4 สัปดาห์
- สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติไม่ต้องพักฟื้น
- หลังฉีด ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนัก หรือทำกิจกรรมที่ไปกระทบกระเทือนบริเวณที่ทำ ในช่วง 2-4 สัปดาห์แรกหลังฉีด เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการบวมช้ำมากยิ่งขึ้น
- ไม่ควรจับ ลูบคลำ นวด หรือปั้นเอง ในบริเวณที่ฉีดหลังทำ (เพราะอาจมีผลต่อการเคลื่อนตัวของตำแหน่ง Fat ไปยังตำแหน่งที่ไม่ต้องการได้)
- ภายใน 1 เดือนแรก ควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น งดการอบไอน้ำ อบซาวน่า หรือกิจกรรมที่ต้องใช้ความร้อนสูง
- ดูแลให้แผลแห้งและสะอาด อย่าให้มีคราบเลือดติดอยู่ที่แผล ถ้ามีให้ใช้สำลีชุบน้ำเกลือหรือ Cotton Buds ที่สะอาดเช็ดเบาๆ บริเวณบาดแผล
- พักการทำ Laser ทุกประเภท ประมาณ 1 เดือน เฉพาะบริเวณที่ทำการฉีดบริเวณอื่นสามารถทำได้ตามปกติ
- ควรหลีกเลี่ยงการดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ หลังทำปะมาน 1-2 สัปดาห์