ศัลยกรรมเสริมสะโพก หรือ เสริมสะโพก
(BUTTOCK AUGMENTATION)
เสริมสะโพกที่ไหนดีสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมสะโพก เสริมสะโพกด้านข้าง ให้ทรวดทรงดูมีส่วนเว้าส่วนโค้งขึ้น ปัจจุบันได้มีเทคนิคการผ่าตัด เสริมสะโพก แบบใช้ซิลิโคน ซึ่งถือว่าเป็นการศัลยกรรมที่นิยมมากในสาว ๆ ฝั่งประเทศบราซิลและอเมริกา ที่มีความต้องการให้สะโพกหรือก้นใหญ่ขึ้น ส่วนในประเทศไทยแม้ว่าการเสริมสะโพกหรือ เสริมสะโพกด้านข้าง ยังไม่เป็นที่นิยมเท่ากับการเสริมหน้าอก แต่ก็ถือเป็นอีกทางเลือกของการศัลยกรรมปรับรูปร่างที่เริ่มได้รับความนิยมขึ้นเรื่อย ๆ และเสริมสะโพกราคาก็ไม่ต่างจากราคาการสริยมหน้าอกมากเท่าไหร่ เพื่อให้สัดส่วนดูสวยงามสมบูรณ์แบบ
การผ่าตัดศัลยกรรม เสริมสะโพก เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีรูปร่างโดยรวมไม่มีส่วนเว้าโค้ง
- ผู้ที่บั้นท้ายไม่มีวอลลุ่ม ฟีบแบน
- ผู้ที่สะโพกขาดวอลลุ่มจากการลดน้ำหนัก
ศัลยกรรมเสริมสะโพก
วิธีเสริมสะโพกแพทย์จะเปิดแผลบริเวณร่องก้น และเสริมซิลิโคนใส่ไว้ภายในกล้ามเนื้อ เสริมสะโพกรีวิวการเสริมด้วยวิธีนี้มีให้ชมมากในต่างประเทศ ซึ่งช่วยให้รูปทรงของสะโพกสวยงาม โดยสามารถเลือกขนาดของซิลิโคนได้ ซึ่งการเสริมสะโพกราคา ก็จะต่างกันตรงที่ขนาดของซิลิโคนด้วย มีหลากหลายขนาดแล้วแต่ความชอบ ทั้งนี้การเลือกขนาดไม่ควรเลือกขนาดที่ใหญ่เกินไปเพราะอาจจะมีปัญหาหลังผ่าตัดได้ (แพทย์จะเป็นผู้ประเมินตามความเหมาะสมในแต่ละคน)
การผ่าตัดเสริมสะโพก
การผ่าตัดเสริมสะโพกแพทย์จะทำการผ่าบริเวณร่องก้น ยาวประมาณ 4-5 ซม. จากนั้นใส่ ถุงซิลิโคน (Buttocks impaints) เป็นรูปทรงกลมหรือทรงรี(หยดน้ำ) แล้วแต่ความเหมาะสม เข้าไปใต้กล้ามเนื้อก้นที่อยู่ระหว่างกล้ามเนื้อส่วนนอกและส่วนกลาง ซึ่งเป็นเทคนิคใหม่ที่ช่วยลดปัญหาการเคลื่อนที่ของถุงซิลิโคน
การเปิดแผลส่วนนี้เป็นที่นิยมมากที่สุดเพราะสามารถซ่อนแผลได้ดี ทำให้เห็นไม่ชัด และเปิดแผลเพียงแผลเดียว ก็สามารถทำได้ทั้ง 2 ข้าง
วิธีเสริมสะโพกให้ดูใหญ่และได้สัดส่วน จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่จะช่วยเสริมสร้างความงดงามของรูปร่าง เสริมบุคลิกภาพให้เกิดความมั่นใจ อีกทั้งยังมีความปลอดภัยในการผ่าตัดสูง
ซิลิโคนที่ใช้เสริมสะโพก/ก้น นั้นจะมีลักษณะแบนและมีความกว้างกว่าซิลิโคนหน้าอก และจะเป็นซิลิโคนเจลชนิดพิเศษที่มีความหนาแน่นมาก (High Cohesive gel) ซึ่งจะมีความแข็งและยืดหยุ่นน้อยกว่าซิลิโคนหน้าอก ทำให้ทนต่อแรงกดได้มากกว่า เพราะการเสริมสะโพกเป็นการใส่ถุงซิลิโคนในบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวและกดทับมากกว่าบริเวณหน้าอก
รูปทรงของซิลิโคน
- ทรงกลม จะมีรูปร่างกลมและแบนเหมาะสำหรับเสริมบริเวณสะโพกด้านใน หรือ บริเวณก้น
- ทรงหยดน้ำหรือทรงรี ตัวซิลิโคนจะมีรูปทรงวงรีเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมด้านข้างของสะโพกโดยมีข้อดีคือ มีเมื่อเสริมแล้วจะได้ธรรมชาติ
การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด
1. แจ้งให้แพทย์ทราบข้อมูลโรคประจำตัว ยาโรคประจำตัว, ประวัติการผ่าตัด, ประวัติการแพ้ยา, ประวัติการแพ้อาหาร (หากมีประวัติการรักษาจากโรงพยาบาล ควรนำมาในวันปรึกษาด้วย) หรือแจ้งก่อนวันจองคิวผ่าตัด
2. ผู้ป่วยที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือด และยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด หรือยาโรคประจำตัวอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการผ่าตัดหรือแจ้งก่อนวันจองคิวผ่าตัด
3. งดทานวิตามินอาหารเสริมต่าง ๆ ทุกชนิด เช่น วิตามินอี, น้ำมันปลา, ใบแปะก๊วย เมล็ดองุ่น โสม ฯลฯ ต้องหยุดยาอย่างน้อย 1 เดือน
4. งดดื่มน้ำ งดรับประทานอาหารทุกชนิดก่อนผ่าตัด 8 ชั่วโมง*
5. ควรสระผมให้สะอาดเรียบร้อยก่อนวันผ่าตัด และไม่แต่งหน้าในวันผ่าตัด งดใส่คอนแทคเลนส์ในวันผ่าตัด หากมีปัญหาด้านสายตาให้สวมแว่นสายตาแทน
6. งดใส่เครื่องประดับทุกชนิด เช่น ต่างหู สร้อย แหวน จิลต่าง ๆ บนร่างกายในวันผ่าตัด (หากถอดออกไม่ได้ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ
7. งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนและหลังผ่าตัด เนื่องจากสารที่อยู่ในบุหรี่มีผลลดปริมาณออกซิเจนในเลือดและทำลายเซลล์ที่จะซ่อมแซมการหายของแผล มีผลทำให้เลือดที่จะมาหล่อเลี้ยงบริเวณที่ผ่าตัดลดลง โดยมีโอกาสให้ผิวหนังที่ผ่าตัดขาดออกซิเจน ทำให้แผลหายช้ากว่าปกติ และเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
8. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-2 วันก่อนผ่าตัด และต่อเนื่องอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
9. ก่อนการผ่าตัด คนไข้ต้องทำความสะอาดเล็บมือเล็บเท้าให้สะอาด งดการทาเล็บมือ, เล็บเท้า และงดการต่อเล็บทุกชนิด
10. คนไข้ต้องเข้ามาทำการตรวจเลือดที่รพ.อย่างน้อย 5-7 วันก่อนการผ่าตัด (กรณีไม่สะดวกเข้ามาเจาะเลือดที่รพ.สามารถส่งผลตรวจเลือดมาได้)
11. กรณีคนไข้ที่มีอายุเกิน 45 ปี ต้องมีผลตรวจสุขภาพและใบรับรองแพทย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด (ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์)
12. เตรียมภาวะจิตใจให้พร้อม ไม่ควรตื่นเต้นมากเกินไป และควรทราบว่าหลังผ่าตัดย่อมเกิดการบวมช้ำบริเวณแผล และการเปลี่ยนแปลงของใบหน้า หรือบริเวณร่างกายที่ทำการผ่าตัด ซึ่งต้องใช้เวลาในการหายของแผลหรือความเคยชินกับภาพลักษณ์ใหม่
การดูแลหลังผ่าตัด
- นอนพักที่โรงพยาบาลประมาณ 2 – 3 วัน
- หลังผ่าตัดแพทย์จะใส่สายระบายเลือด-น้ำเหลืองประมาณ 2 – 3 วัน
- แพทย์จะเปิดผ้าพันแผลในวันที่ 2 หรือ 3 และหลังจากเปิดแผล ควรทำแผลทุกวันจนถึงวันตัดไหม
- หลังผ่าตัดต้องนอนคว่ำอย่างน้อย 7 วัน เพื่อป้องกันไม่ให้แผลแยกและช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น หลังจากนั้น สามารถนอนตะแคงสลับการนอนคว่ำ เป็นเวลาประมาณ 2-3 อาทิตย์ และต้องใส่กางเกงยกกระชับสะโพก อย่างน้อย 1 เดือนเพื่อช่วยให้แผลสมานเร็วขึ้น
- ผลของการผ่าตัดจะเห็นผลได้ชัดเจนตั้งแต่วันแรก แต่จะยังมีอาการบวมอยู่ โดยก้น/สะโพกจะดูนิ่มและเป็นธรรมชาติประมาณ 2 – 3 เดือนขึ้นไปหลังผ่าตัด
- วันที่ 3 หลังการผ่าตัดสามารถเดินหรือนั่งได้ช้า ๆ โดยที่อาจจะรู้สึกปวดตึงอยู่บ้าง
- หลังจากผ่าตัด 1-2 สัปดาห์ สามารถทำการออกกำลังกายเบาๆ เพื่อยืดกล้ามเนื้อ โดยการงอหัวเข่าขึ้นประมาณ 4 – 5 ครั้งต่อวันก็จะช่วยให้เดินได้ปกติเร็วขึ้น (ควรปรึกษาแพทย์)
- กรณีถ้ามีการดูดไขมันร่วมด้วยต้องใส่ชุดสำหรับดูดไขมันประมาณ 3 – 4 อาทิตย์ขึ้นไป
- สามารถออกกำลังกายตามปกติหลังผ่าตัด 4 สัปดาห์ขึ้นไป
ทำไมต้องผ่าตัดเสริมสะโพกที่ Alyss by Vertex Clinic
เสริมสะโพกที่ไหนดี alyss by vertex clinic คลินิคศัลยกรรมเรือนร่างและความงามเต็มรูปแบบ พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมตกแต่ง ที่จะดูแลคุณในทุกปัญหาไม่ว่าจะเป็น รูปร่าง ผิวพรรณและความงาม
เราพร้อมที่จะเนรมิตรความสวยให้กับคุณ