ตัดหน้าอก ศัลยกรรมผ่าตัด เปลี่ยนหญิงเป็นชาย ด้วยเทคนิคเฉพาะ แผลเนียน
การศัลยกรรมตัดหน้าอก (Mastectomy) ในชายข้ามเพศ (Transman) จบปัญหาหน้าอกใหญ่กวนใจ เพราะนอกจากจะทำให้เสียบุคลิกภาพแล้วยังทำให้ขาดความมั่นใจอีกด้วย เพราะในสาวหล่อบางคนยังคงใส่สเตย์รัดหน้าอกอยู่ ซึ่งสร้างความน่ารำคาญเพราะทำให้รู้สึกอึดอัด หายใจไม่สะดวก และทางการแพทย์นั้นมองเห็นอันตรายจากการใส่สเตย์รัดหน้าอกว่า การที่ผ้ารัดแน่นเกินไปส่งผลเสียต่อกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอก ถ้าใช้ผ้ารัดหน้าอกเป็นเวลานานอาจทำให้กล้ามเนื้อหน้าอกอักเสบได้ โดยภายหลังทำให้คนหันมานิยมตัดหน้าอกกันมากในกลุ่มของ Transexual ที่ต้องการเปลี่ยนจากเพศหญิงเป็นเพศชาย
เนื้อหา
1.การศัลยกรรมตัดหน้าอกคืออะไร?
3.เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัดหน้าอก
3.1.ผ่าตัดหน้าอก โดยการเปิดแผลใต้ราวนม
3.2.ผ่าตัดหน้าอก โดยการเปิดแผลบริเวณหัวนม
3.2.1.เปิดแผลรอบปานนม(การผ่าตัดรูปตัว O)
3.2.2.เปิดแผลที่ปานนมเป็นตัว U ของปานนม
3.2.3.เปิดแผลที่ปานนมเป็นตัว U และยาวออกไปด้านข้าง
3.2.4.เปิดแผลที่ปานนมเป็นเส้นตรง
5.การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดหน้าอก
7.วิธีดูแลตัวเองหลังเข้ารับการผ่าตัดหน้าอก
8.ผลข้างเคียงหลังการผ่าตัดหน้าอก
การศัลยกรรมตัดหน้าอก คืออะไร
การที่ตัดเนื้อนมและผิวหนังส่วนเกินที่ไม่ต้องการออก เพื่อให้หน้าอกมีลักษณะแบนเหมือนผู้ชาย และแน่นอนว่าในการตัดหน้าอก แพทย์อาจมีการลดขนาดหัวนมและปานนมร่วมด้วยเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งจะมีผลทำให้ส่วนการรับรู้ความรู้สึกบริเวณหัวนมลดลง และในการผ่าตัดจำเป็นต้องผ่าตัดกับศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญ และความเชี่ยวชาญ เนื่องจากบริเวณเต้านมนั้นมีเส้นประสาทอยู่จำนวนมาก แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเทคนิคการผ่าตัดหน้าอกที่แพทย์เลือกใช้ด้วย อีกทั้งในขั้นตอนการผ่าตัดแพทย์จะต้องเปิดแผลให้เล็กที่สุด เพื่อให้หน้าอกออกมาเนียนสวยเหมือนไม่เคยตัดหน้าอกมาก่อน
ตัดหน้าอกแก้ปัญหาการขาดความมั่นใจ
ทางด้านรูปลักษณ์ ช่วยให้รูปร่างดูมีความแมนมากขึ้น เสริมสร้างความมั่นใจ และเหมาะมากกับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเองจากผู้หญิงเป็นผู้ชาย เพราะจะทำให้บุคลิกดูดีและทะมัดทะแมง
ตัดหน้าอก หลายเทคนิคที่เลือกได้
1.ผ่าตัดหน้าอก โดยการเปิดแผลใต้ราวนม
การเปิดแผลใต้ราวนม ถือเป็นวิธีที่คนส่วนใหญ่นิยมกันมาก เหมาะกับผู้ที่มีขนาดหน้าอกใหญ่ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ทรงหน้าอกไม่ผิดรูปหรือหย่อนคล้อย ค่อนข้างปรับรูปทรงได้ดี
ข้อเสียคือ มีรอยแผลเป็นยาวบริเวณใต้ราวนมหลังผ่าตัด
2.ผ่าตัดหน้าอก โดยการเปิดแผลบริเวณหัวนม
ในการเปิดแผลบริเวณหัวนม ศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดหน้าอกเอาเต้านมออกทางหัวนมเพื่อตัดเนื้อเยื่อเต้านมต่างๆออก จะไม่เหมาะกับผู้ที่มีขนาดหน้าอกใหญ่
2.1.เปิดแผลรอบปานนม(การผ่าตัดรูปตัว O)
เป็นการเปิดแผลบริเวณรอบปานนมตามรูปภาพ เหมาะกับผู้ที่มีหน้าอกไม่ใหญ่มาก
ซึ่งวิธีการตัดหน้าอกทางหัวนม ศัลยแพทย์จะสามารถตกแต่งเพื่อปรับให้ขนาดปานนมให้เล็กลงได้ประมาณหนึ่ง เพราะฉนั้นจึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดขนาดปานนมร่วมด้วย
2.2.เปิดแผลที่ปานนมเป็นตัว U ของปานนม
เป็นการเปิดแผลใต้ปานนมตามรูปภาพ เหมาะกับผู้ที่มีหน้าอกขนาดเล็ก
เทคนิคการเปิดแผลตัดหน้าอกแบบนี้จะไม่ค่อยทิ้งรอยแผลเป็น เพราะแผลจะอยู่บริเวณปานนม และไม่เหมาะกับผู้ที่มีหน้าอกขนาดใหญ่ มีส่วนเกินมาก
2.3.เปิดแผลที่ปานนมเป็นตัว U และยาวออกไปด้านข้าง
เป็นการเปิดแผลบริเวณปานนม และยาวออกไปด้านข้างของเต้านมเล็กน้อยตามรูปภาพ การตัดหน้าอกโดยการเปิดแบบนี้ จะเหมาะกับผู้ที่มีหน้าอกขนาดกลางแลปานนมมีขนาดเล็กอยู่แล้ว เนื่องจากไม่สามารถช่วยลดขนาดปานนมได้
2.4.เปิดแผลที่ปานนมเป็นเส้นตรง
เป็นการเปิดแผลเป็นเส้นตรงตามรูปภาพ เทคนิคนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีขนาดหน้าอกไม่ใหญ่มากแต่มีความยืดหยุ่นของผิวค่อนข้างดี และจะเหมาะมากกับผู้ที่มีขนาดปานนมใหญ่ ต้องการปรับและตกแต่งเพื่อลดขนาดปานนมให้เล็กลง
ซึ่งเทคนิคการผ่าตัดทั้งหมดที่ว่ามานี้ ศัลยแพทย์จะประเมิณตามความเหมาะสมของคนไข้แต่ละเคส เพื่อให้การตัดหน้าอกในครั้งนี้ ออกมาดูธรรมชาติที่สุด
ตัดหน้าอกและผลข้างเคียงหลังการผ่าตัด
กรณีการตัดหน้าอกโดยการเปิดแผลใต้ราวนม อาจทำให้เกิดแผลเป็นยาวได้
- หลังจากตัดหน้าอกแล้ว จะไม่สามารถกลับมาให้นมบุตรได้อีก
- กรณีเปิดแผลที่หัวนม อาจทำให้หัวนมไม่รับรู้ความรู้สึกไปชั่วขณะ
วางยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดหน้าอก
- ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยา วิตามิน หรืออาหารเสริมที่กำลังใช้ เพราะสารบางชนิดอาจส่งผลเสียต่อการผ่าตัดหน้าอกได้
- ควรหยุดใช้ยาแอสไพรินหรือยาทำให้เลือดจางลง อย่าน้อย 1 – 2 สัปดาห์ เนื่องจากยาเหล่านี้สามารถเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เลือดออกมากเกินไป
- ควรงดน้ำและอาหาร 8 – 12 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัดหน้าอก
ขั้นตอนการผ่าตัดหน้าอก
- วิสัญญีแพทย์ทำการดมยาสลบเพื่อให้เราหลับโดยไม่รู้สึกถึงความเจ็บ
- ศัลยแพทย์จะทำการเปิดแผลในตำแหน่งที่กำหนดและทำการเอาเนื้อหน้าอกออกมา
- ศัลยแพทย์จะตัดหนังส่วนเกินออก และปรับแต่งรูปทรงหน้าอกให้ดูสวยธรรมชาติ
- หากผู้ที่ได้รับการผ่าตัดหน้าอกทางหัวนม ศัลยแพทย์จะปรับตำแหน่งหัวนมเพื่อลดขนาดหัวนม และปานนม ให้ได้ขนาดและตำแหน่งเหมือนหน้าอกผู้ชายตามธรรมชาติ ขั้นตอนนี้อาจจะต้องพูดคุยกับศัลยแพทย์ถึงเรื่องความรู้สึกทางหัวนมว่าจะกลับมารู้สึหเหมือนเดิมไหมหรือว่าจะชาประมาณกี่เดือน
- ศัลยแพทย์ทำการเย็บแผลให้เนียนสวย เสมือนว่าไม่เคยผ่านการผ่าตัดหน้าอกมาก่อน
วิธีดูแลตัวเองหลังเข้ารับการผ่าตัดหน้าอก
- หลังจากการผ่าตัดเสร็จ ศัลยแพทย์จะทำการพันผ้ารัดหน้าอกไว้โดยประมาณ 2 – 4 วัน
- หลังจากที่แกะผ้ารัดหน้าอกแล้ว คนไข้จะต้องดูแลเป็นพิเศษให้แผลแห้งและไม่ให้แผลโดนน้ำจนกว่าจะถึงเวลาตัดไหมเพื่อป้องกันไม่ให้แผลติดเชื้อ
- ควรนอนหงาย เพื่อลดอาการบวมหลังการผ่าตัดหน้าอกโดยประมาณ 7 วัน และไม่ควรนอนคว่ำหรือนอนตะแคง เนื่องจากอาจทำให้แผลหายช้าหรือระบมได้
- ควรสวมเสื้อรัดหน้าอกไว้อย่างน้อย 3 เดือน เพื่อให้หน้าอกอยู่ทรง กระชับ และข้อดีของเสื้อรัดหน้าอกคือช่วยลดอาการบวมได้ดี
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก รวมถึงการว่ายน้ำและแช่อ่างโดยประมาณ 1 เดือน เพราะอาจทำให้แผลหายช้า
- ในการผ่าตัดหน้าอกอาจเกิดแผลเป็นนูนได้ ซึ่งถ้ารอยแผลได้เกิดขึ้นแล้ว ก็สามารถรักษาได้โดยการทายาบรรเทา หรือฉีดคีลอยด์
- ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่หลังการผ่าตัดหน้าอกอย่างน้อย 1 – 2 เดือน เนื่องจากการดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลให้ระบบต่างๆในร่างกายทำงานลดลง เช่น ระบบภูมิคุ้มกัน หรือกระบวนการสมานตัวของแผล
ตัดหน้าอกกับคำถามที่พบบ่อย
หลังจากการผ่าตัดหน้าอกแล้ว เต้านมบริเวณรอบจะเหี่ยวไหมในกรณีที่หน้าอกเก่ามีขนาดใหญ่?
ไม่เกิดการเหี่ยวย่น เนื่องจากศัลยแพทย์จะทำการตกแต่งเต้านมโดยรอบ
หลังการผ่าตัดหน้าอก จะสามารถกลับมาให้นมบุตรได้ไหม?
ไม่สามารถกลับมาให้นมบุตรได้ เนื่องจากศัลยแพทย์ทำการตัดเต้านมออก
หากในอนาคตอยากกลับมามีหน้าอกเหมือนเดิม สามารถเสริมหน้าอกคืนได้ไหม?
สามารถเสริมหน้าอกได้ แต่ในการเสริมจะมีความซับซ้อนมากกว่าผู้ที่ไม่เคยตัดหน้าอกมาก่อน